ขั้นตอนสำคัญในการขออนุญาตก่อสร้าง: และใครต้องเซ็นควบคุมงานบ้าง?
การขออนุญาตเพื่อการก่อสร้างเป็นขั้นตอนสำคัญที่เจ้าของบ้านทุกคนต้องดำเนินการ หลังจากที่เตรียมเอกสารครบถ้วนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการหา ผู้ควบคุมงาน เพื่อ เซ็นรับรองการก่อสร้าง ซึ่งในบทความนี้จะอธิบายกรณีการเซ็นรับรองใน 4 กรณีหลัก เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจว่าใครเหมาะที่จะเซ็นควบคุมงานในโครงการของคุณ
1. กรณีเจ้าของเซ็นคุมงานเอง
เจ้าของสามารถเซ็นคุมงานได้เองในกรณีที่ บ้านมีลักษณะเรียบง่าย เช่น
- ไม่เกิน สองชั้น
- พื้นที่ใช้สอยรวมกันไม่เกิน 150 ตารางเมตร
- ช่วงคานยาวไม่เกิน 5 เมตร
- ความสูงของชั้นใดชั้นหนึ่งไม่เกิน 4 เมตร
บ้านที่เข้าเงื่อนไขเหล่านี้ถือเป็นโครงสร้างมาตรฐานทั่วไป ซึ่งไม่ซับซ้อนและไม่มีความเสี่ยงสูง เจ้าของจึงสามารถควบคุมงานเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้ วิศวกร หรือ สถาปนิก เซ็นรับรอง
2. กรณีสถาปนิกเซ็นคุมงาน
หากบ้านหรืออาคารของคุณมีพื้นที่ใช้สอยเกิน 150 ตารางเมตร จะถือว่าเป็น อาคารควบคุม จำเป็นต้องให้ สถาปนิกเซ็นคุมงาน เพื่อให้มั่นใจว่าการออกแบบสอดคล้องกับมาตรฐาน และปลอดภัยต่อการใช้งาน
3. กรณีวิศวกรเซ็นคุมงาน
กรณีนี้เหมาะสำหรับบ้านหรืออาคารที่มีโครงสร้างซับซ้อน เช่น
- บ้านหรืออาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 3 ชั้นขึ้นไป
- โครงสร้างที่ชั้นใดชั้นหนึ่งมีความสูงตั้งแต่ 4 เมตรขึ้นไป
- ช่วงคานยาวตั้งแต่ 5 เมตรขึ้นไป
ในกรณีดังกล่าว จำเป็นต้องให้ วิศวกร เซ็นคุมงาน เพื่อรับรองความแข็งแรงของโครงสร้าง ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในอนาคต
4. กรณีสถาปนิกและวิศวกรเซ็นร่วมกัน
หากบ้านของคุณเข้าเงื่อนไขทั้งกรณีที่ 2 และกรณีที่ 3 เช่น มีพื้นที่ใช้สอยเกิน 150 ตารางเมตร และมีโครงสร้างที่ซับซ้อน จะต้องให้ ทั้งสถาปนิกและวิศวกร เซ็นคุมงานร่วมกัน เพื่อให้โครงสร้างและการออกแบบเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย
ข้อควรรู้ก่อนการขออนุญาตเพื่อการก่อสร้าง
การเลือกผู้เซ็นคุมงานที่เหมาะสมเป็นส่วนสำคัญในการ ยื่นขออนุญาตเพื่อการก่อสร้าง ให้ผ่านได้อย่างรวดเร็ว เพราะ สถาปนิก และ วิศวกร จะตรวจสอบความเหมาะสมของอาคารตามมาตรฐาน พร้อมให้คำแนะนำปรับแก้ไขแบบแปลนให้ถูกต้องก่อนการยื่นเอกสาร
อย่าละเลยขั้นตอนสำคัญนี้ เพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายและเพื่อความปลอดภัยในระยะยาว การก่อสร้างโดยไม่มีการขออนุญาต หรือการเลือกเซ็นคุมงานอย่างไม่เหมาะสม อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินของคุณ รวมถึงคนรอบข้าง
นอกจากนี้การเซ็นรับรองยังต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ การเซ็นในส่วน การออกแบบ และ การควบคุมงาน โดยรายละเอียดของแต่ละส่วนมีดังนี้
การเซ็นในส่วนการออกแบบและการควบคุมงาน
1. การเซ็นในส่วนการออกแบบ
สำหรับการขออนุญาตก่อสร้างในขั้นตอนการออกแบบ จำเป็นต้องมี ผู้เซ็นรับรองแบบแปลน ซึ่งแบ่งออกเป็น
- สถาปนิกผู้ออกแบบ: เซ็นรับรองแบบสถาปัตยกรรม เช่น แปลนบ้าน รูปด้าน รูปตัด และรายการวัสดุ
- วิศวกรผู้ออกแบบโครงสร้าง: เซ็นรับรองแบบโครงสร้างและ รายการคำนวณ เพื่อยืนยันว่าโครงสร้างมีความแข็งแรงและปลอดภัย
2. การเซ็นในส่วนการควบคุมงาน
ในขั้นตอนการก่อสร้าง จำเป็นต้องมี ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง ตามกฎหมาย ซึ่งสามารถเป็นบุคคลเดียวกับผู้ที่เซ็นในส่วนการออกแบบได้ หากสถาปนิกหรือวิศวกรผู้ออกแบบยินดีมาควบคุมงานเอง โดยมีข้อกำหนดดังนี้
- สถาปนิกควบคุมงาน: ดูแลการก่อสร้างให้เป็นไปตามแบบที่ออกแบบไว้
- วิศวกรควบคุมงาน: ตรวจสอบความถูกต้องของการก่อสร้างในส่วนโครงสร้าง และรับรองความปลอดภัย
ทั้งนี้ เจ้าของบ้านสามารถเลือกใช้บุคคลใหม่สำหรับการควบคุมงาน หรือใช้ผู้เซ็นออกแบบเดิมมาทำหน้าที่ควบคุมงานได้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความพร้อมของแต่ละฝ่าย
เรทราคาของผู้เซ็นในตลาดปัจจุบัน
ราคาค่าบริการผู้เซ็นรับรองในแต่ละส่วนจะขึ้นอยู่กับ สเกลขนาดของตัวงาน และความซับซ้อน โดยเรทราคาเฉลี่ยในตลาดมีดังนี้
1. สถาปนิกเซ็นออกแบบ
- เรทราคา: 5,000 – 50,000 บาท
- หมายเหตุ: ราคาขึ้นอยู่กับพื้นที่อาคารและรายละเอียดของแบบแปลน
2. วิศวกรเซ็นออกแบบพร้อมรายการคำนวณ
- เรทราคา: 5,000 – 50,000 บาท
- หมายเหตุ: ราคาขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของโครงสร้าง เช่น จำนวนชั้น ช่วงคาน หรือพื้นที่ใช้สอย
3. สถาปนิกเซ็นคุมงาน
- เรทราคา: 10,000 – 30,000 บาทต่อโครงการ
- หมายเหตุ: ราคาขึ้นอยู่กับขนาดของงานและระยะเวลาการควบคุม
4. วิศวกรเซ็นคุมงาน
- เรทราคา: 15,000 – 50,000 บาทต่อโครงการ
- หมายเหตุ: ราคาขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของโครงสร้างและระยะเวลาการควบคุม
หมายเหตุ : เรทราคาข้างต้นผู้เขียนอิงจากราคาสืบทราบในสเกลงานสร้างบ้านสร้างอาคารขนาดไม่เกิน 4 ชั้น และพื้นที่ไม่เกิน 1000 ตารางเมตรเท่านั้น
ข้อควรรู้ก่อนเลือกผู้เซ็นรับรอง
- การเลือก ผู้เซ็นในส่วนการออกแบบ และ การควบคุมงาน ควรพิจารณาจากประสบการณ์ ความน่าเชื่อถือ และใบอนุญาตที่ถูกต้อง
- หากใช้งานสถาปนิกหรือวิศวกรคนเดียวกันทั้งสองส่วน อาจต่อรองราคาได้
- การใช้บริการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับใบอนุญาตช่วยให้การยื่นขออนุญาตก่อสร้างราบรื่น และลดความเสี่ยงปัญหาทางกฎหมายในอนาคต
คำถามที่พบบ่อย
ใครสามารถเซ็นคุมงานก่อสร้างได้?
ขึ้นอยู่กับลักษณะของบ้านหรืออาคาร หากเป็นบ้านธรรมดาขนาดเล็ก เจ้าของสามารถเซ็นคุมงานเองได้ แต่หากมีความซับซ้อน เช่น พื้นที่เกิน 150 ตารางเมตร หรือมีความสูงมาก จำเป็นต้องใช้สถาปนิกหรือวิศวกร
หากเจ้าของบ้านไม่เซ็นคุมงานเอง ต้องหาผู้เซ็นจากที่ไหน?
สามารถติดต่อ สถาปนิก หรือ วิศวกร ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาสถาปนิกหรือสภาวิศวกร
ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการขออนุญาตก่อสร้าง?
เอกสารที่ต้องใช้ได้แก่
- แบบแปลนที่ได้รับการเซ็นรับรอง
- สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของที่ดิน
- ใบรับรองสิทธิในที่ดิน (โฉนด)
- หนังสือรับรองผู้ควบคุมงาน
ถ้าไม่มีการเซ็นคุมงาน จะเกิดอะไรขึ้น?
หากไม่มีการเซ็นควบคุมงาน การก่อสร้างจะผิดกฎหมาย อาจถูกระงับการก่อสร้าง และไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้อาคาร นอกจากนี้ อาจมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของอาคาร
สามารถเปลี่ยนผู้เซ็นควบคุมงานระหว่างการก่อสร้างได้หรือไม่?
สามารถเปลี่ยนได้ แต่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมส่งเอกสารการเปลี่ยนแปลงและได้รับอนุมัติอย่างถูกต้อง
บ้านที่สร้างเองโดยไม่ได้ขออนุญาตสามารถยื่นขอภายหลังได้ไหม?
สามารถทำได้ แต่จะต้องยื่นเอกสารขออนุญาตย้อนหลัง พร้อมจ่ายค่าปรับตามที่กฎหมายกำหนด และต้องปรับปรุงอาคารให้ตรงตามมาตรฐานก่อนการอนุมัติ
การทราบข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้คุณเตรียมตัวได้อย่างมั่นใจและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการขออนุญาตก่อสร้าง
บทสรุป
การขออนุญาตก่อสร้างอาจดูซับซ้อน แต่การเข้าใจลักษณะของบ้านและการเลือกผู้เซ็นควบคุมงานที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น เจ้าของบ้านเอง, สถาปนิก, หรือ วิศวกร จะช่วยให้การก่อสร้างเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ปลอดภัย และราบรื่น
ดูคลิปการยื่นขออนุญาตก่อสร้างได้ที่เพจเฟซบุ๊ค วิศวะการันตี
หรือติดตามพวกเราได้ที่ : เพจ : วิศวะการันตี
อยากรู้จักเรา : เราเป็นใคร?
#ขออนุญาตก่อสร้าง #เซ็นคุมงาน #สถาปนิก #วิศวกร #บริหารงานก่อสร้าง #ความปลอดภัย