บริการตรวจสอบงานก่อสร้าง

1.1.3 ตรวจสอบงานโครงสร้างบนดิน บริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา

ทำให้โครงการก่อสร้างของคุณ

มั่นใจได้ว่าสร้างตามหลักวิศวกรรม

ถ้าโครงสร้างใต้ดินของอาคารเปรียบได้กับเท้าของมนุษย์ที่ช่วยพยุงน้ำหนักทั้งหมดของร่างกายแล้ว โครงสร้างบนดิน ซึ่งได้แก่ พื้น-คาน-เสา ก็คงเปรียบเสมือนโครงกระดูก ที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับแรงโน้มถ่วงและรองรับน้ำหนักของส่วนต่างๆ ของอาคาร การตรวจสอบ และควบคุมงานในส่วนนี้โดย คอนเซาท์ หรือผู้ควบคุมงานก่อสร้างจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อรับประกันความแข็งแรงและความปลอดภัยของการ สร้างบ้าน หรือโครงการก่อสร้าง และทางวิศวกรุ๊ปก็มีบริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา เป็นหนึ่งในบริการของเราด้วยเช่นกัน

WHY US

ทีมวิศวกรผู้มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ด้านการจัดการงานก่อสร้าง ให้คอนเซาท์ก่อสร้างได้ช่วยดูแลบ้านของคุณ.

1.1.3 ตรวจสอบงานโครงสร้างบนดิน บริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา

บริการตรวจพื้น-คาน-เสา

พื้น-คาน-เสา คือ โครงกระดูกของอาคาร จึงควรให้ความสำคัญ เพื่อสร้างความมั่นคงให้อาคารอย่างยั่งยืน

ถ้าโครงสร้างใต้ดินของอาคารเปรียบได้กับเท้าของมนุษย์ที่ช่วยพยุงน้ำหนักทั้งหมดของร่างกายแล้ว โครงสร้างบนดิน ซึ่งได้แก่ พื้น-คาน-เสา ก็คงเปรียบเสมือนโครงกระดูก ที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับแรงโน้มถ่วงและรองรับน้ำหนักของส่วนต่างๆ ของอาคาร การตรวจสอบ และควบคุมงานในส่วนนี้โดย คอนเซาท์ หรือผู้ควบคุมงานก่อสร้างจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อรับประกันความแข็งแรงและความปลอดภัยของการ สร้างบ้าน หรือโครงการก่อสร้าง และทางวิศวกรุ๊ปก็มีบริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา เป็นหนึ่งในบริการของเราด้วยเช่นกัน

ความเข้าใจพื้นฐาน

โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เป็นโครงสร้างที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากคอนกรีตมีคุณสมบัติรับแรงอัดได้ดี แต่สามารถรับแรงดึงได้ต่ำ และมีความเปราะ ดังนั้นจึงต้องมี เหล็กเสริม เพื่อเพิ่มความแข็งแรงสำหรับการรับแรงดึง โดยงานคอนกรีตเสริมเหล็กนั้นประกอบไปด้วยส่วนสำคัญที่จำเป็นต้องพิจารณาหลายส่วน เช่น งานคอนกรีต งานแบบหล่อ งานบ่มคอนกรีต งานเหล็กเสริมคอนกรีต และงานตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้าง ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องดำเนินการตามมาตรฐานเพื่อให้โครงสร้างมั่นคง และยั่งยืน และในบริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา นี้ก็จัดว่าเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ทั้งสิ้น

1. งานคอนกรีต

มาตรฐานและข้อกำหนดวัสดุ

  1. ใช้ ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ คุณภาพสูง 
  2. คอนกรีตผสมเสร็จ ควรเลือกใช้จากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ 
  3. ทราย และหินต้องสะอาด ปราศจากสิ่งสกปรก
  4. น้ำที่ใช้ผสมคอนกรีตต้องเป็นน้ำประปาที่สะอาด
  5. มวลรวมต้องมีขนาด และส่วนคละที่เหมาะสม เช่น ใช้ หินเบอร์หนึ่ง (ขนาด ½” – ¾”) สำหรับโครงสร้างรอง และ หินเบอร์สอง (ขนาด ¾” – 1½”) สำหรับโครงสร้างหลัก
  6. หากมีการใช้สารผสมเพิ่ม เช่น สารกันซึมน้ำ,สารเร่งการก่อสร้าง, สารหน่วง ฯลฯ จะต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม และตามวิธีการของบริษัทผู้ผลิต
  7. ค่าการยุบตัวของคอนกรีต กำหนดให้ใช้ดังนี้
    1. ฐานราก  3-7 cm.
    2. พื้น, คาน, ผนัง คสล.  4-10 cm.
    3. เสา 5-10 cm.
    4. ครีบ คสล. 5.5-12 cm.
บริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา
รูปภาพตัวอย่าง การตรวจค่ายุบตัวของคอนกรีตที่ออกมาจากแพล้นว่าได้ตามสเปคที่สั่งหรือไม่ จากในรูปจะเห็นได้ว่าค่ายุบตัวอยู่ที่ประมาณ 7-8cm

รายการตรวจสอบงานคอนกรีต

  1. การผสมคอนกรีต
    1. สำหรับคาน พื้น และเสา ใช้อัตราส่วน 1:2:4 (ปูนซีเมนต์ : ทราย : หิน) หรือตามที่ผู้ออกแบบกำหนด
    2. สำหรับคอนกรีตหยาบ ใช้อัตราส่วน 1:3:5 หรือตามที่ผู้ออกแบบกำหนด
  2. กระบะตวงส่วนผสมคอนกรีต
    1. ใช้กระบะขนาดมาตรฐาน 35.5×35.5×30 ซม. และมีถังน้ำล้างหินเตรียมไว้
  3. การเทคอนกรีต
    1. ก่อนการเทคอนกรีตโครงสร้าง ต้องได้รับอนุมัติจากผู้ควบคุมงานก่อน และคอนกรีตต้องมีค่ากำลังรับแรงอัด (fc’) ไม่น้อยกว่า 210 ksc.ที่อายุ 28 วัน สำหรับตัวอย่างทรงกระบอก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 15 ซม. สูง 30 ซม. ( หรือ 240 ksc. สำหรับตัวอย่างทรงลูกบาศก์)  หรือตามที่ผู้ออกแบบกำหนด
    2. อายุของ Ready Mix Concrete โดยทั่วไปกำหนดไว้ที่ 2 ชม. นับจากเวลาที่ออกจาก Plant Concrete หากเกินเวลาที่กำหนด ห้ามนำคอนกรีตส่วนที่เหลือมาใช้สำหรับงานโครงสร้างเด็ดขาด
    3. ห้ามมีการผสมน้ำเพิ่มเติมขณะเทคอนกรีตเด็ดขาดหากตรวจสอบพบต้อง Reject คอนกรีตส่วนนั้นทั้งหมด
    4. ในการใช้ Ready Mix Concrete ทุกครั้ง ต้องมีการเก็บตัวอย่างลูกปูนอย่างน้อย 3 ลูก เพื่อตรวจสอบคุณภาพของคอนกรีตว่าได้กำลังอัดตามที่กำหนดไว้หรือไม่ โดยทางผู้ผลิตเป็นผู้จัดเก็บทดสอบ และต้องส่งผลการทดสอบให้ทางผู้ควบคุมงานทราบทุกครั้ง เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงต่อไป
    5. ควรเทให้เสร็จในคราวเดียว หากต้องหยุด ควรหยุดในตำแหน่งที่กำหนด 
    6. หลีกเลี่ยงการเทคอนกรีตจากระยะสูงกว่า 2.00 เมตร เพื่อป้องกันการแยกตัวของมวลรวม
    7. ให้ใช้เครื่องจี้ไปด้วย เพื่อให้คอนกรีตไม่เป็นโพรง 
    8. ภายในระยะเวลา 24 ชม. ห้ามบรรทุกน้ำหนักโดยเด็ดขาด 
    9. เนื้อคอนกรีตต้องไม่เป็นโพรงจนเห็นเนื้อเหล็กเสริม
    10. งานคอนกรีต ไม่ว่าจะเป็น Ready Mix หรือผสมเองที่หน้างาน ควรต้องทำการสุ่มทดสอบกำลังอัดของคอนกรีตโดยใช้เครื่อง  Hammer Test เพื่อทดสอบว่าได้ค่ากำลังอัดตามที่กำหนดหรือไม่
  4. การหยุดเทคอนกรีต 

ให้หยุดเทคอนกรีตได้ใน ตำแหน่งที่กำหนด ดังนี้   

  1. ฐานราก ห้ามหยุดเทคอนกรีต 
  2. เสา หยุดเทที่ระดับท้องคานที่เสารองรับ และต้องเป็นแนวระดับ 
  3. คาน หยุดเทได้ที่กึ่งกลางคาน และแนวที่หยุดต้องเป็นแนวดิ่ง 
  4. พื้น หยุดเทได้ที่กึ่งกลางพื้น และแนวที่หยุดต้องเป็นแนวดิ่ง (ยกเว้นพื้นหล่อในที่ เช่นพื้นห้องน้าและพื้นระเบียง ห้ามหยุดเทคอนกรีต) 
  5. บันได ห้ามหยุดเทคอนกรีต 
บริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา
รูปภาพตัวอย่าง การตรวจใบส่งคอนกรีตจากแพล้นผู้ให้บริการ ถึงสเป็คของคอนกรีตที่สั่งว่าถูกต้องตามที่วิศวกรผู้ออกแบบโครงสร้างกำหนดไว้หรือไม่

2. งานแบบหล่อคอนกรีต

มาตรฐานและข้อกำหนดวัสดุ

  1. ใช้แบบหล่อที่ไม่ผุ ไม่คดงอ และมีผิวหน้าเรียบ
  2. การประกอบแบบหล่อต้องมีขนาด และลักษณะตามแบบที่กำหนด
  3. เข้าแบบให้สนิท และห้ามใช้ถุงปูนอุดรอยรั่ว 
  4. หลังเทคอนกรีต ควรยึดแบบหล่อให้อยู่ในตำแหน่งจนถึงเวลาถอดแบบที่กำหนด เช่น
    1. แบบข้างคาน ผนัง และเสา 24 ชั่วโมง
    2. แบบท้องคาน และพื้น 7 วัน แต่ให้ค้ำยันต่อจนครบ 14 วัน

รายการตรวจสอบแบบหล่อ

  1. ตรวจสอบงานเหล็กเสริม ตำแหน่งแบบหล่อ และตำแหน่ง Sleeves ที่ฝังในคอนกรีต ให้ถูกต้องก่อนเทคอนกรีต โดยเฉพาะความมั่นคงแข็งแรงของแบบหล่อในส่วนที่รับน้ำหนักมากๆ เช่น การถ่ายน้ำหนักลงดินโดยตรง หรือถ่ายน้ำหนักให้กับคาน(ที่เว้นเหล็กบนไว้) ซึ่งถือเป็นข้อห้าม เพราะหากเกิดการทรุดตัวของ Support หรือโครงสร้าง อาจเกิดการวิบัติของโครงสร้าง ขณะเทคอนกรีตได้ทุกเมื่อ
  2. แบบหล่อต้องแนบสนิท และไม่มีรอยรั่ว ป้องกันการไหลของน้ำปูน ซึ่งจะทำให้เกิดโพรง
  3. การถอดแบบหล่อต้องทำอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันความเสียหายของโครงสร้าง
  4. หลังจากถอดแบบหล่อแล้ว ต้องรีบบ่มคอนกรีตทันที โดยบ่มต่อเนื่องอย่างน้อย 7 วัน และหากผิวคอนกรีตมีสภาพไม่สมบูรณ์ เป็นโพรง มีรูพรุน ฯลฯ ต้องแจ้งวิศวกรผู้ควบคุมงาน และทำการซ่อมคอนกรีตทันที
บริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา
รูปภาพตัวอย่าง งานพื้นซึ่งนอกจากตรวจเหล็กโครงสร้างแล้วยังต้องตรวจรอยต่อของไม้แบบท้องพื้นด้วยว่ามีการซีนรอยต่อเรียบร้อยหรือไม่

3. งานบ่มคอนกรีต

การบ่มคอนกรีตช่วยเพิ่มปัจจัยให้คอนกรีตได้รับการพัฒนาความแข็งแรงได้ตามที่ผู้ออกแบบกำหนด และช่วยยืดอายุการใช้งานโครงสร้าง โดยมีแนวทางดังนี้

  1. ภายหลังจากการถอดแบบออกแล้ว ให้ทำการบ่มคอนกรีตทันที
  2. การบ่มด้วยน้ำ ให้ราดน้ำ หรือใช้กระสอบเปียกคลุมพื้นที่เทคอนกรีตอย่างต่อเนื่อง 7 วัน
  3. การใช้น้ำยาบ่มคอนกรีต ควรใช้น้ำยาบ่มคอนกรีตที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ และใช้ตามวิธีการที่บริษัทผู้ผลิตกำหนด 
  4. หลีกเลี่ยงการเสียดสี และการบรรทุกน้ำหนักก่อนคอนกรีตมีกำลังตามที่กำหนด
บริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา
รูปภาพตัวอย่าง การใช้น้ำรดไปที่พื้นคอนกรีตที่เพิ่งหล่อเสร็จหลังจากคอนกรีตแข็งเซ็ตตัวแล้วเพื่อการบ่มคอนกรีตให้ได้คุณภาพสูงที่สุด

4. งานเหล็กเสริมคอนกรีต

มาตรฐาน และข้อกำหนดวัสดุ

  1. เหล็กเสริมต้องไม่มีสนิม และไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน
  2. ระยะทาบเหล็กต้องไม่น้อยกว่า 30 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางเหล็ก(ตามมาตรฐานรายการประกอบแบบ)
  3. ต่อทาบเหล็กในจุดที่วิศวกรผู้ออกแบบอนุญาตให้ต่อทาบได้ โดยอ้างอิงจากมาตรฐาน วสท. เท่านั้น

รายการตรวจสอบงานเหล็กเสริม

  1. วางเหล็กเสริมในตำแหน่งที่กำหนดในแบบ
  2. ระยะ covering ตามข้อกำหนด วสท.
  3. เหล็กคานที่ชนกับเหล็กเสาต้องเบี่ยงหลบกัน
  4. เหล็กของคานฝาก ให้วางบนเหล็กของคานหลัก

4.1 ตรวจคานคอนกรีตเสริมเหล็ก หนึ่งในบริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา ของเรา

ความเข้าใจทั่วไป 

คานเป็นโครงสร้างองค์อาคารในแนวราบที่รับน้ำหนักจากตัวพื้นที่วางอยู่บนคาน โดยคานจะถ่ายน้ำหนักให้กับเสาอีกต่อหนึ่ง คานที่เป็นคานคอนกรีตเสริมเหล็ก ประกอบด้วยงานในการก่อสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก 

มาตรฐาน และข้อกำหนดวัสดุ 

  1. คอนกรีตคาน ใช้คอนกรีตผสมเสร็จ กำลังอัดประลัย 210 ksc. (สำหรับทรงกระบอก)
  2. เหล็กเสริมคอนกรีต ใช้ขนาด และลักษณะตามที่กำหนดในแบบก่อสร้าง
  3. เหล็กเสียบรับจันทัน(อะเส คสล.) ใช้เหล็กขนาดข้ออ้อย 12 มม. ยาวรวม 60 ซม. ดัดเป็นรูปตัวยูยาวไม่น้อยกว่า 30 ซม. ฝังในคอนกรีต ไม่น้อยกว่า 15 ซม. ตลอดแนวคาน ระยะห่างเท่ากับระยะจันทันที่ระบุในแบบ

วิธีการตรวจสอบ

  1. ก่อนที่จะเทคอนกรีต ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ควบคุมงานก่อนทุกครั้ง
  2. ต้องมีลูกปูนหนุนเหล็กท้องคาน และข้างคานเสมอ
  3. ในขณะที่ทำการเทคอนกรีต จะต้องใช้เครื่องจี้คอนกรีต เพื่อป้องกันไม่ให้คอนกรีตเป็นโพรง
  4. พื้นหล่อในที่ เช่น พื้นห้องน้ำ, พื้นระเบียง จะต้องเทคอนกรีตพร้อมคาน (ยกเว้นพื้นชั้นล่าง)
  5. คานส่วนที่เป็นชานพักบันได ต้องเทคอนกรีตพร้อมเสา
  6. ภายในระยะเวลา 24 ชม. หลังการเทคอนกรีตโครงสร้าง ห้ามมีน้ำหนักบรรทุกบนคานโดยเด็ดขาด
  7. ก่อนที่จะทำการตบแต่งคอนกรีตผิวคาน ต้องได้รับอนุมัติจากผู้ควบคุมงานก่อน
  8. สำหรับการหล่อคานทับหลังหน้าต่าง และกระจกเข้ามุม ต้องมีเหล็กเส้นหลักเสริมคานเสียบฝากไว้ในเสาตรงตำแหน่งได้ถูกต้อง
  9. ต้องทำหูช้าง คสล. รับแผ่นพื้น คสล. สำเร็จรูป ที่ไม่มีคานรับตามรูปแบบที่กำหนดไว้

รายการตรวจสอบสำคัญ 

  1. คานคอนกรีตต้องมีขนาด และตำแหน่งที่กำหนดในแบบก่อสร้าง
  2. วัสดุรองรับท้องคานคอดินให้ใช้ไม้แบบ หรือ Lean Concrete อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นวัสดุรองรับ
  3. ผิวคอนกรีตหลังคาน ต้องมีความเรียบ และมีระดับที่ถูกต้อง
  4. เนื้อคอนกรีตต้องไม่เป็นโพรงจนเห็นเนื้อเหล็กเสริม
  5. เนื้อคอนกรีต ต้องมีค่ากำลังรับแรงอัด ไม่น้อยกว่า 210 ksc. (รูปทรงกระบอก)
  6. ต้องฝังเหล็กเพื่อรับจันทันที่คานหลังคา (ตามขนาด และลักษณะที่กำหนดในแบบ) ตามตำแหน่งของจันทัน
  7. เหล็กของคานฝากให้วางบนเหล็กของคานหลัก
  8. เหล็กคานที่ชนกับเหล็กเสา ให้เบี่ยงเหล็กคานหลบเหล็กเสา ห้ามใช้วิธีดุ้งเหล็ก
บริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา
รูปภาพตัวอย่างการตรวจ การหนุนลูกปูนคานเพื่อให้ได้ระยะ covering จากรูปจะเห็นเลยว่าข้างที่มีการหนุนลูกปูนจะได้ระยะ covering ใกล้เคียงกับค่ามาตรฐานของ วสท. คือ 2.5 เซนติเมตร
บริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา
รูปภาพตัวอย่างการตรวจ การหนุนลูกปูนคานที่ได้มาตรฐานมีหนุนลูกปูน 2 ขา/1จุด การหนุนของเหล็กคาน
บริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา
รูปภาพตัวอย่างการวัดระยะท่องานระบบประกอบอาคารที่จำเป็นต้องมีการฝังไว้ในคาน ซึ่งระยะที่มีการฝังไว้ในคานนั้นต้องได้รับความเห็นชอบจากวิศวกรผู้ออกแบบโครงสร้าง เพราะการฝังลักษณะนี้มีผลต่อพฤติกรรมของคานในอนาคต
บริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา
รูปภาพตัวอย่าง การตรวจระยะความห่างในการผูกเหล็กโครงสร้างซึ่งจะมีการกำหนดมาจากวิศวกรผู้ออกแบบโครงสร้าง

4.2 ตรวจเสาคอนกรีตเสริมเหล็ก หนึ่งในบริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา ของเรา

ความเข้าใจทั่วไป

เสาเป็นโครงสร้างที่ต่อขึ้นมาจากฐานราก(ตอม่อก็นับว่าเป็นเสา) เป็นโครงสร้างองค์อาคารในแนวดิ่ง มีหน้าที่สำคัญในการถ่ายน้ำหนักบรรทุกที่มาจากคาน และถ่ายลงสู่ฐานรากต่อไป เสาที่เป็นเสาคอนกรีตเสริมเหล็ก ประกอบด้วยงานในการก่อสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก 

มาตรฐาน และข้อกำหนดวัสดุ 

  1. คอนกรีตเสา ใช้คอนกรีตผสมเสร็จ กำลังอัดประลัย 210 ksc. (สำหรับทรงกระบอก)
  2. เหล็กเสริมคอนกรีต ใช้ขนาด และลักษณะตามที่กำหนดในแบบก่อสร้าง
  3. เหล็กหนวดกุ้ง เป็นเหล็กเส้นกลม ขนาด  6 มม.จำนวน 2 เส้น ยาวไม่น้อยกว่า 25 ซม. (วัดจากผิวเสาถึงปลายเหล็ก)

วิธีการตรวจสอบ

  1. ก่อนการเทคอนกรีตจะต้องทำความสะอาดแบบหล่อทุกครั้ง และหนุนลูกปูน(รูปทรงโดนัท) ให้เรียบร้อย
  2. ในขณะที่ทำการเทคอนกรีต จะต้องทำการกระทุ้งคอนกรีตให้แน่น เพื่อไม่ให้คอนกรีตเป็นโพรง
  3. ก่อนที่จะทำการตบแต่งคอนกรีตผิวเสา ต้องได้รับอนุมัติจากผู้ควบคุมงานก่อน
  4. การตรวจสอบผิว และดิ่งของเสา หลังจากเทคอนกรีตแล้วให้ปฏิบัติ ดังนี้
    1. ก่อนเทคอนกรีตเสา ต้องยึดโยงแบบเสาทุกด้านให้มั่นคง และตรวจสอบดิ่งเสาอย่างน้อยด้านที่อยู่ติดกัน ค่าล้มดิ่งต้องไม่เกิน 1 ซม. ต่อความสูงเสา 3 ม. ทุกด้าน 
    2. ในการจี้ และเทคอนกรีต ควรทำด้วยความระมัดระวังอย่าให้กระทบต่อแบบเสา
    3.  หลังจากที่ถอดแบบเสาแล้ว (เมื่อได้กำหนดที่จะถอดแบบ) ต้องดีดเส้นเต๊าที่เสาทั้ง 2 ด้านที่ติดกันในแนวศูนย์กลางของดิ่งเสาตลอดความยาวเสา เพื่อตรวจสอบความถูกต้องก่อนขึ้นงานโครงสร้างส่วนที่ต่อเนื่องต่อไป ทั้งนี้หากต้องมีการซ่อมแซมเสาต้องทำให้เสร็จก่อนที่จะขึ้นงานอื่นต่อไป 
    4. ในการถอดแบบ ต้องทำด้วยความระมัดระวังอย่าให้เกิดแรงกระแทกต่อเสา เพราะเสาอาจบิ่น แตก ร้าว ได้ เนื่องจากอายุคอนกรีต และกำลังอัดยังไม่ได้ตามข้อกำหนด
    5.  ใช้คอนกรีตผสมเสร็จในการเทเสาเท่านั้น ห้ามใช้โม่ผสมเองที่หน้างาน 
    6. หากต้องการซ่อมแซมคอนกรีตเสาทุกกรณีต้องปฏิบัติตามมาตรฐานงานซ่อมคอนกรีตเท่านั้น 
    7. ส่วนงานอื่นๆ ให้ปฏิบัติตามมาตรฐานงานโครงสร้าง

รายการตรวจสอบสำคัญ

  1. เสาแต่ละต้นจะต้องมี ขนาด และตำแหน่งตามที่กำหนดในแบบก่อสร้าง
  2. แนวดิ่งของโครงสร้างเสาจะล้มดิ่งได้ไม่เกิน 1 ซม.ต่อความยาว 3 เมตร ทั้ง 2 ด้านที่อยู่ติดกัน
  3. เนื้อคอนกรีตต้องไม่เป็นโพรงจนเห็นเนื้อเหล็กเสริม 
  4. เนื้อคอนกรีตจะต้องมีค่ากำลังรับแรงอัดประลัย ไม่น้อยกว่า 180 ksc. (รูปทรงกระบอก)
  5. การต่อเหล็กเสาให้ต่อที่โคนเสา โดยมีระยะทาบไม่น้อยกว่า 30 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางเหล็กหรือไม่น้อยกว่า 60 ซม. 
บริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา
รูปภาพตัวอย่างการตรวจสอบ “ดิ่งเสา” เป็นการตรวจก่อนการเทคอนกรีตเสาว่าไม้แบบที่ได้ตั้งไว้สำหรับหล่อเสานั้นมีการตั้งตรงทำมุมตั้งฉาก 90 องศา กับระนาบพื้นโลกหรือไม่ โดย วสท. กำหนดค่ามาตรฐาน error ในทุกๆ 3 เมตร ล้มดิ่ง ได้ไม่เกิน 6มิลลิเมตร
บริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา
รูปภาพตัวอย่างการตรวจสอบ “ดิ่งเสา” หลังการเทคอนกรีตอีกครั้งว่าหลังจากหล่อคอนกรีตเสาออกมาแล้วยังได้ค่าไม่เกินข้อกำหนด วสท. อยู่ เป็นหนึ่งในบริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา

4.3 ตรวจพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก หนึ่งในบริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา ของเรา

ความเข้าใจทั่วไป

พื้นเป็นโครงสร้างในแนวราบมีลักษณะเป็นแผ่นบาง มีหน้าที่รับน้ำหนักโดยตรง และกระจายน้ำหนักที่รับนั้นลงสู่คานที่อยู่รอบๆ พื้น พื้นนี้เป็นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก ประกอบด้วยงานในการก่อสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ลักษณะ และประเภทของพื้นที่ใช้โดยทั่วไป แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ พื้นหล่อในที่ และพื้นสำเร็จรูป 

4.3.1 พื้นหล่อในที่ 

มาตรฐาน และข้อกำหนดวัสดุ 

  1. คอนกรีตพื้น ใช้คอนกรีตผสมเสร็จ กำลังอัดประลัย 210 ksc. (สำหรับทรงกระบอก)
  2. เหล็กเสริมคอนกรีต ใช้ขนาด และลักษณะตามที่กำหนดในแบบก่อสร้าง

วิธีการตรวจสอบ

  1. พื้นห้องน้ำ และพื้นระเบียง จะต้องผสมน้ำยากันซึมในเนื้อคอนกรีตด้วย
  2. ลานซักล้าง และทางเดินโรงรถ ที่เป็น SLAB ON GROUND จะต้องมีการบดอัดดิน และทรายให้แน่นโดยใช้เครื่องบดอัด และปูแผ่นพลาสติกก่อนการเทคอนกรีต โดยมีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
    1. ตัดร่อง Joint ให้ขาดจากกันอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะรอบเสา ข้างผนัง ทั้งโรงรถ ลานซักล้าง
    2. อุดร่องรอยต่อดังกล่าวด้วยวัสดุยืดหยุ่นตามมาตรฐาน หรือใช้การโรยกรวดในร่อง ตามความเหมาะสม 
    3. หากมีการทรุดตัวตามธรรมชาติเกิดขึ้น จะไม่เกิดการแตกร้าวตามมา เนื่องจากได้ตัดแยกออกจากกันแล้วหากมีการทรุดตัวเกิดขึ้นมาก อาจทำการซ่อมแซมได้โดยการอุดด้วยวัสดุยาแนว หรือโรยกรวดเพิ่มขึ้น โดยไม่ทำให้โครงสร้างเกิดการแตกร้าว 
  3. ภายในระยะเวลา 24 ชม. ของการเทคอนกรีตห้ามมีน้ำหนักบรรทุกโดยเด็ดขาด
  4. การเทคอนกรีตพื้นปิดช่องท่อ (SHAFT ในบ้าน) ให้ปฏิบัติดังนี้
    1. ในแบบโครงสร้าง หากระบุให้มี Concrete Slab ปิดต้องเทปิดช่องท่อนี้ทุกครั้งก่อนปิดงาน หากไม่มีระบุในแบบ ให้ปรึกษาผู้ควบคุมงานก่อนทำงานทุกครั้ง 
    2. ก่อนทำการเทคอนกรีตปิดช่องท่อ ต้องตรวจสอบเส้นท่อ การยึดโยง และการจัดวางเส้นท่อให้ถูกต้องตามมาตรฐานก่อน แล้วจึงเทคอนกรีตปิดช่องท่อต่อไป 
    3. การเทคอนกรีตปิดช่องท่อทุกครั้ง ต้องยึดกับโครงสร้างให้แข็งแรง และเทให้เสร็จในครั้งเดียว เนื่องจากสัตว์ แมลง ความชื้นต่างๆ ที่อยู่ใต้บ้าน อาจเล็ดลอดเข้ามาสร้างปัญหาในเวลาต่อมาได้ 

รายการตรวจสอบสำคัญ 

  1. พื้นต้องมีระดับ และความเรียบสม่ำเสมอในแนวราบ เช่น ไม่แอ่น , ไม่เอียง
  2. เหล็กเสริมคอนกรีต ให้วางตามลักษณะที่กำหนดในแบบก่อสร้าง
  3. พื้นห้องน้ำ และระเบียงบนต้องฝังท่อ SLEEVE สำหรับท่อน้ำดี-น้ำทิ้งก่อนเทคอนกรีต โดยใช้ข้อต่อท่อ PVC.
  4. พื้นหล่อในที่ชั้นล่าง ให้วางระบบท่อสุขาภิบาลให้เรียบร้อยก่อน(กรณีที่มี) และปรับดินจนถึงระดับที่กำหนดไว้ ลงทรายหยาบปรับระดับ 5 ซม. ปูพลาสติกใสปิดบนชั้นทรายก่อนเทคอนกรีต
  5. พื้นหล่อในที่ชั้นบน ให้ใช้ไม้แบบรองรับท้องพื้นชั้นบน
  6. เนื้อคอนกรีตต้องไม่เป็นโพรงจนเห็นเนื้อเหล็กเสริม

4.3.2 พื้นสำเร็จรูป 

มาตรฐาน และข้อกำหนดวัสดุ 

  1. พื้นสำเร็จรูปต้องใช้ขนาด และลักษณะตามมาตรฐานของผู้ผลิต หรือยี่ห้อตามที่ระบุในแบบ
  2. เหล็กเสริมคอนกรีตทับหน้าบนพื้นสำเร็จรูป(TOPPING) ใช้ขนาด และลักษณะตามที่กำหนด
  3. คอนกรีต ใช้อัตราส่วนผสม 1 : 2 : 4 (ปูนซีเมนต์ 1 ส่วน:ทรายหยาบ 2 ส่วน:หินเบอร์หนึ่ง 4 ส่วน)

วิธีการตรวจสอบ

  1. ก่อนวางพื้นควรทำความสะอาดคานที่จะรองรับน้ำหนักพื้นให้เรียบปราศจากดิน หรือคราบปูนฉาบเพื่อที่จะวางแผ่นพื้นได้ แนบชิดสนิทกัน และได้ระดับสม่ำเสมอกันโดยตลอด การติดตั้งจะทำได้ อย่างสะดวกรวดเร็ว และสวยงาม
  2. วางพื้นสำเร็จรูปชิดกันตลอดระหว่างคาน โดยให้วางทับอยู่บนหลังคานข้างละประมาณ 5 ซม.ดังนั้นการกำหนดความยาวของพื้นสำเร็จรูป ควรรวมระยะขอบนี้ด้วย
  3. การค้ำยันชั่วคราว
    1. ในกรณีที่แผ่นพื้นยาวกว่า 4 .00 เมตร ให้มีการทำค้ำยันชั่วคราวใต้แผ่นพื้น
    2. ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเดินทำงานบนพื้นสำเร็จรูป ขณะที่ยังไม่เทคอนกรีตทับหน้า ควรมีค้ำยันชั่วคราวหลายๆ จุด หรือตามคำแนะนำของวิศวกร 
    3. หลังจากเทคอนกรีตทับหน้าแล้ว ( CONCRETE TOPPING ) การถอดไม้ค้ำยันออก จะถอดได้เมื่อคอนกรีตรับแรงอัดได้ตามกำหนดหรืออย่างน้อยอายุครบ 7 วันแล้ว 
  4. การเทคอนกรีตทับหน้า ( CONCRETE TOPPING )
    1. ใช้เหล็กเสริมขนาด  6 มม. ระยะห่าง 20 ซม. เพื่อป้องกันคอนกรีตทับหน้าแตก และสำหรับช่วงรอยต่อพื้นด้านหัวแผ่นให้ใช้เสริมเหล็ก  9 มม. ฝังยื่นยาวออกมาจากคานหักพับตามแนวนอน 40 ซม. ระยะห่าง 20 ซม. เพื่อเพิ่มความแข็งแรงช่วงรอยต่อพื้น 
    2. คอนกรีตที่ใช้เททับหน้าต้องมีกำลังรับแรงอัด ไม่น้อยกว่า 210 ksc. (รูปทรงกระบอก)
    3. ในกรณีวางแผ่นพื้นไม่ได้(ช่องกว้างไม่เกิน 30 ซม.) ควรปรึกษาวิศวกร

รายการตรวจสอบสำคัญ 

  1. หัวพื้นสำเร็จ ต้องวางอยู่บนคาน ค.ส.ล. ไม่น้อยกว่า 5 ซม. และห้ามสกัดแผ่นพื้น ให้ใช้ไฟ

เบอร์ตัดคอนกรีตตัดแผ่นให้เรียบร้อย

  1. การวางพื้นสำเร็จ ต้องวางให้มีลักษณะตามมาตรฐานของผู้ผลิตแผ่นพื้น
  2. ไม่ควรสกัดหลังคาน ค.ส.ล. เพื่อปรับระดับพื้น
  3. การวางเหล็กเสริมบนพื้นสำเร็จรูปเพื่อเทคอนกรีตทับหน้า(TOPPING) ใช้ขนาด และลักษณะตามที่กำหนด
  4. พื้นต้องมีระดับ และความเรียบสม่ำเสมอในแนวราบ เช่น ไม่แอ่น, ไม่เอียง
  5. พื้นส่วนที่ปูปาร์เก้ หรือลามิเนตต้องทำผิวขัดมันหลังเทคอนกรีต
  6. ห้ามกองเก็บวัสดุต่าง ๆ บนพื้นสำเร็จรูป เกินกว่าค่าน้ำหนักปลอดภัยที่รับได้ ควรวางแผ่กระจาย ชิดโครงสร้างเสา, คาน 

5. งานตรวจสอบโครงสร้าง

หลักเกณฑ์ในการตรวจสอบ

  1. ตรวจสอบ Schmidt Hammer  ควรใช้เครื่อง Schmidt Hammer สุ่มตรวจสอบกำลังอัดของคอนกรีตอย่างสม่ำเสมอ
  2. การตรวจสอบผิวคอนกรีต  หากพบโพรงหรือรอยร้าว ให้ซ่อมแซมด้วยปูน Non-Shrink 

สรุปความสำคัญของการตรวจสอบโครงสร้างบนดิน หรือบริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา ของเรา

การตรวจสอบ โครงสร้างบนดิน พื้น-คาน-เสา เป็นขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้โครงสร้างใต้ดิน เพราะมีบทบาทโดยตรงในการรับน้ำหนักของอาคาร การปฏิบัติงานตามมาตรฐาน และตรวจสอบอย่างละเอียดในทุกขั้นตอน จะช่วยป้องกันปัญหาในระยะยาว ทำให้โครงการก่อสร้างดำเนินไปอย่างมั่นคง ยั่งยืน และปลอดภัย ก็จบแล้วนะครับกับการอธิบายวิธีการตรวจสอบในบริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา ของทางวิศวะกรุ๊ป

ดูคลิป CM หรือ คอนเซาท์ในงานก่อสร้าง ช่วยอะไรคุณได้บ้าง? ได้ที่เพจเฟซบุ๊ค วิศวะการันตี

หากท่านอยากใช้บริการตรวจงานพื้น-คาน-เสา ก็สามารถติดต่อเราได้ตามช่องทางการติดต่อด้านล่างได้เลยครับ

หรือติดตามพวกเราได้ที่ : เพจ : วิศวะการันตี

อยากรู้จักเรา : เราเป็นใคร?

รูปตัวอย่างการตรวจภาคสนามของเรา