ในโครงการก่อสร้างไม่ว่าขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ การประเมินแผนงานก่อสร้าง และคำนวณปริมาณงานจากผู้รับเหมา ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้เจ้าของโครงการมั่นใจได้ว่างานก่อสร้างจะดำเนินไปตามงบประมาณ ระยะเวลา และมาตรฐานที่กำหนดไว้
การมี คอนเซาท์ก่อสร้าง (Construction Consultant) เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในด้านต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารโครงการได้อย่างมืออาชีพ บทความนี้จะอธิบายถึงบทบาทสำคัญของคอนเซาท์ก่อสร้างในกระบวนการประเมินแผนงาน และคำนวณปริมาณงานจากผู้รับเหมา
บทบาทของคอนเซาท์ก่อสร้างในการประเมินแผนงานก่อสร้าง
- ตรวจสอบความเป็นไปได้ของแผนงาน
คอนเซาท์ก่อสร้างจะช่วยตรวจสอบว่าแผนงานที่ผู้รับเหมานำเสนอสามารถดำเนินการได้จริงหรือไม่ ทั้งในด้านของระยะเวลา ขั้นตอนการก่อสร้าง และการใช้ทรัพยากร โดยจะวิเคราะห์แผนงานในเชิงลึก เช่น ระยะเวลาการทำงานในแต่ละขั้นตอน, การจัดสรรทรัพยากร เช่น แรงงาน เครื่องจักร และวัสดุก่อสร้าง, แนะนำการวางแผนสำรอง (Contingency Plan) ในกรณีที่มีอุปสรรคเกิดขึ้น - เปรียบเทียบกับแผนงานต้นฉบับ
คอนเซาท์จะช่วยเปรียบเทียบแผนงานของผู้รับเหมากับเป้าหมายของโครงการ รวมถึงแผนงานต้นฉบับที่เจ้าของโครงการกำหนดไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าแผนงานที่นำเสนอจะไม่เบี่ยงเบนไปจากเป้าหมายที่วางไว้ - วิเคราะห์ความเสี่ยง
แผนงานก่อสร้างมักมีความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อโครงการ เช่น ความล่าช้า การขาดแคลนวัสดุ หรือปัญหาด้านสภาพอากาศ คอนเซาท์จะช่วยประเมิน และระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
บทบาทของคอนเซาท์ก่อสร้างในการคำนวณปริมาณงาน
- ตรวจสอบ BOQ. (Bill of Quantities)
คอนเซาท์ก่อสร้างมีหน้าที่ตรวจสอบรายการปริมาณงาน (BOQ.) ที่ผู้รับเหมานำเสนอ เพื่อให้มั่นใจว่าปริมาณงานใน BOQ. สอดคล้องกับแบบก่อสร้าง ราคาวัสดุและแรงงานที่ระบุใน BOQ. อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและเป็นไปตามตลาด และไม่มีรายการปริมาณงานที่ขาดหายหรือซ้ำซ้อน - ประเมินความเหมาะสมของวัสดุ และแรงงาน
การคำนวณปริมาณวัสดุ และแรงงานที่ถูกต้องจะช่วยลดความสูญเสีย และการใช้ทรัพยากรเกินความจำเป็น คอนเซาท์จะช่วยวิเคราะห์ว่าปริมาณวัสดุที่ผู้รับเหมาคำนวณมานั้นเหมาะสมกับลักษณะของงาน และพื้นที่โครงการหรือไม่ - ตรวจสอบการกำหนดราคางาน
คอนเซาท์ก่อสร้างจะตรวจสอบว่าราคางานที่ผู้รับเหมานำเสนอนั้นสอดคล้องกับต้นทุนจริงหรือไม่ โดยเฉพาะในงานก่อสร้างที่มีรายละเอียดซับซ้อน เช่น งานระบบไฟฟ้า-ประปา งานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก หรืองานสถาปัตยกรรม - ให้คำแนะนำในการปรับปรุง BOQ.
หากพบว่ามีการคำนวณปริมาณงานหรือวัสดุที่ไม่ถูกต้อง คอนเซาท์จะให้คำแนะนำแก่ผู้รับเหมาในการปรับปรุง BOQ. ให้เหมาะสม และสอดคล้องกับเป้าหมายของโครงการ
ประโยชน์ของการมีคอนเซาท์ก่อสร้างช่วยประเมินแผนงาน และปริมาณงาน
- ลดความเสี่ยงด้านต้นทุน
การตรวจสอบแผนงาน และ BOQ. อย่างละเอียดช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดต้นทุนแฝง หรือค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น - เพิ่มความโปร่งใสในโครงการ
คอนเซาท์ก่อสร้างทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเจ้าของโครงการ และผู้รับเหมา ช่วยสร้างความโปร่งใสในกระบวนการประเมินแผนงาน และราคา - ช่วยให้การก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐาน
คอนเซาท์จะตรวจสอบให้มั่นใจว่างานก่อสร้างทุกขั้นตอนเป็นไปตามมาตรฐานวิศวกรรม เพื่อไม่ให้มีข้อผิดพลาดที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย - สนับสนุนการตัดสินใจของเจ้าของโครงการ
ด้วยข้อมูลที่ครบถ้วน และการวิเคราะห์ที่รอบด้าน เจ้าของโครงการสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ คุ้มค่า และปลอดภัยในทุกกระบวนการ
บทสรุป
การประเมินแผนงาน และคำนวณปริมาณงาน และราคาของโครงการก่อสร้างที่เหมาะสม ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของโครงการก่อสร้าง การมีคอนเซาท์ก่อสร้างเข้ามาเป็นผู้ช่วยให้คำแนะนำในกระบวนการนี้ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยง และความผิดพลาด แต่ยังเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าของโครงการว่าการก่อสร้างจะดำเนินไปตามแผนที่กำหนดไว้ ด้วยความคุ้มค่า และมาตรฐานสูงสุด เจ้าของโครงการที่มองหาความมั่นใจในทุกขั้นตอนของโครงการ จึงควรพิจารณาใช้บริการคอนเซาท์ก่อสร้างที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเพื่อให้เป็นตัวแทนที่คุณวางใจได้
เราแนะนำคลิปเพิ่มเติม >>> ความสำคัญของ CM หรือคอนเซาท์ในงานก่อสร้าง ได้ที่เพจเฟซบุ๊ค วิศวะการันตี
หรือติดตามพวกเราได้ที่ : เพจ : วิศวะการันตี
อยากรู้จักเรา : เราเป็นใคร?
#คอนเซาท์ก่อสร้าง #การประเมินแผนงาน #BOQ #การคำนวณปริมาณวัสดุและแรงงาน #การกำหนดราคางาน #ความโปร่งใส #ความเสี่ยงด้านต้นทุน #มาตรฐานวิศวกรรม #การตัดสินใจ #เจ้าของโครงการ #วิศวะการันตี #วิศวะกรุ๊ป