ในโครงการก่อสร้างทุกประเภท ตั้งแต่บ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน ไปจนถึงโครงการขนาดใหญ่ ปัญหาข้อขัดแย้งในแบบก่อสร้างมักเป็นหนึ่งในอุปสรรคหลักที่พบได้บ่อย ซึ่งอาจนำไปสู่ความล่าช้างบประมาณที่บานปลาย หรือความผิดพลาดในงานก่อสร้าง หากไม่มีการจัดการที่เหมาะสม

การมี คอนเซาท์ก่อสร้าง ที่มีความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบแบบ และเคลียร์ข้อขัดแย้งของแบบก่อสร้างก่อนเริ่มลงมือทำจริง จะช่วยให้โครงการดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับโครงการในอนาคต

ข้อขัดแย้งในแบบก่อสร้างคืออะไร
ข้อขัดแย้งในแบบก่อสร้างเกิดขึ้นเมื่อแบบแปลนของส่วนต่างๆ ในโครงการ เช่น แบบโครงสร้าง (Structural Drawing), แบบสถาปัตยกรรม (Architectural Drawing) และ แบบระบบงานวิศวกรรม (MEP Drawing) มีความขัดแย้งหรือไม่สอดคล้องกัน เช่น ตำแหน่งเสา คาน หรือท่อในแบบโครงสร้างไม่ตรงกับแบบสถาปัตยกรรม, ระบบท่อประปาหรือไฟฟ้าในแบบ MEP ซ้อนทับกับโครงสร้างหลัก หรือรายละเอียดวัสดุที่ระบุในแบบไม่สอดคล้องกัน

บทบาทของคอนเซาท์ก่อสร้างในการจัดการข้อขัดแย้งของแบบก่อสร้าง

1. ตรวจสอบความสอดคล้องของแบบ
   คอนเซาท์ก่อสร้างจะตรวจสอบแบบก่อสร้างทุกส่วนงาน เพื่อค้นหาจุดที่อาจขัดแย้งกัน เช่น ความคลาดเคลื่อนในตำแหน่ง และขนาดของส่วนประกอบต่างๆ, การจัดวางระบบที่อาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้าง, รายละเอียดที่ขาดหรือตกหล่นในแบบ เป็นต้น
2. เคลียร์ข้อขัดแย้งระหว่างทีมงานออกแบบ
   คอนเซาท์จะทำหน้าที่ประสานงานระหว่างทีมออกแบบ เช่น สถาปนิก วิศวกรโครงสร้าง และวิศวกรระบบ เพื่อนำเสนอประเด็นข้อขัดแย้งที่พบ และร่วมกันหาข้อสรุปหรือวิธีแก้ไขที่เหมาะสม
3. เสนอแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม
   ด้วยประสบการณ์ในงานก่อสร้าง คอนเซาท์ก่อสร้างสามารถเสนอแนวทางแก้ไขที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านความปลอดภัย ความคุ้มค่า และความสะดวกในการก่อสร้าง เช่น ปรับตำแหน่งเสา คาน หรือท่อในแบบก่อสร้าง หรือแนะนำวัสดุหรือเทคนิคการก่อสร้างที่เหมาะสมกับโครงการมากขึ้น
4. จัดทำแบบปรับปรุง (Revised Drawing)
   หลังจากเคลียร์ข้อขัดแย้งแล้ว คอนเซาท์จะช่วยจัดทำ หรือประสานงานไปยังผู้ออกแบบในการจัดทำแบบปรับปรุงให้สมบูรณ์ เพื่อให้ทุกฝ่ายในโครงการสามารถใช้เป็นเอกสารอ้างอิงในการดำเนินการได้อย่างถูกต้อง
5. ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
   การตรวจสอบแบบ และเคลียร์ข้อขัดแย้งก่อนเริ่มงาน ช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการก่อสร้าง เช่น การหยุดงานกะทันหัน การแก้ไขงานหน้างาน การทำงานซ้ำซ้อน หรือความล่าช้าของโครงการ

ประโยชน์ของการมีคอนเซาท์ก่อสร้างช่วยเคลียร์ข้อขัดแย้งในแบบ

1. ลดความล่าช้า และข้อผิดพลาดในโครงการ
   การเคลียร์ข้อขัดแย้งตั้งแต่ต้นช่วยลดความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้นจากการแก้ไขงานในภายหลัง
2. ประหยัดค่าใช้จ่าย
   การแก้ไขข้อขัดแย้งของแบบก่อสร้างมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการแก้ไขหน้างาน ลดความเสียหายทางการเงินให้กับเจ้าของโครงการ และผู้รับเหมา
3. เพิ่มความราบรื่นในการก่อสร้าง
   แบบก่อสร้างที่สมบูรณ์ และไม่มีข้อขัดแย้ง ช่วยให้ทีมงานก่อสร้างสามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง และประสบผลสำเร็จอย่างราบรื่น
4. เสริมความมั่นใจให้เจ้าของโครงการ
   เจ้าของโครงการสามารถมั่นใจได้ว่าการก่อสร้างจะเป็นไปตามแบบที่ถูกต้อง ได้มาตรฐาน และอยู่ในงบประมาณที่คาดหวังไว้แต่แรก
5. สร้างความโปร่งใสในโครงการ
   การมีคอนเซาท์เป็นตัวกลางช่วยประสานงาน และตรวจสอบแบบก่อสร้าง ช่วยลดความขัดแย้ง และความเข้าใจผิดระหว่างทีมงาน รวมถึงเป็นบุคคลที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับทั้งการออกแบบ และการก่อสร้าง จึงทำให้สามารถเชื่อมั่นเรื่องความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในโครงการได้

สรุป
การจัดการข้อขัดแย้งของแบบก่อสร้างให้เป็นไปตามมาตรฐาน เป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้โครงการก่อสร้างดำเนินไปได้อย่างราบรื่น คอนเซาท์ก่อสร้างไม่เพียงมีบทบาทในการตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาแบบก่อสร้าง แต่ยังช่วยเพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินการ และเพิ่มประสิทธิภาพในทุกขั้นตอนของโครงการ การมีคอนเซาท์เป็นตัวแทนช่วยเจ้าของโครงการในขั้นตอนนี้จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ช่วยลดความเสี่ยง และปัญหาที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มโอกาสความสำเร็จให้กับโครงการก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เราแนะนำคลิปเพิ่มเติม >>> ความสำคัญของ CM หรือคอนเซาท์ในงานก่อสร้าง ได้ที่เพจเฟซบุ๊ค วิศวะการันตี

หรือติดตามพวกเราได้ที่ : เพจ : วิศวะการันตี

อยากรู้จักเรา : เราเป็นใคร?

#วิศวะการันตี #วิศวะกรุ๊ป #แบบปรับปรุง #เคลียร์ข้อขัดแย้ง #คอนเซาท์ก่อสร้าง #ลดความล่าช้า #ประหยัดค่าใช้จ่าย #เพิ่มความราบรื่น #ความมั่นใจ #โปร่งใส #ประสิทธิภาพ #โครงการก่อสร้าง