9 ขั้นตอน Pre-Construction เพื่อความสำเร็จในโครงการก่อสร้าง
Pre-construction หรือ การเตรียมความพร้อมก่อนการก่อสร้าง เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการวางโครงสร้าง และรากฐานของโครงการโดยทีม CM หรือ ที่ปรึกษาโครงการ ขั้นตอนนี้ช่วยให้การวางแผน และเตรียมการต่างๆ พร้อมสำหรับให้โครงการก่อสร้างดำเนินไปอย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพ การดำเนินการในขั้นตอน Pre-construction ที่ดีจะช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และลดความเสี่ยงที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในภายหลัง และเป็นการเตรียมความพร้อมทุกด้าน เช่น ด้านความเหมาะสม ด้านกฎหมาย ด้านการออกแบบ ด้านการประเมินต้นทุน และด้านการจัดการเอกสารที่เกี่ยวข้อง
1. การประเมินความเสี่ยง และศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ
การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ เป็นขั้นตอนแรกที่ต้องทำการประเมิน ทั้งในด้าน สถานที่, กฎหมาย, การเงิน, การออกแบบ และปัจจัยอื่นๆ ที่อาจมีผลต่อความสำเร็จของโครงการ เช่น ความพร้อมของที่ดิน, สิ่งแวดล้อม, กฎระเบียบทางกฎหมาย และข้อกำหนดเฉพาะ ในขั้นตอนนี้จะช่วยให้เจ้าของโครงการทราบถึง ความเสี่ยง และโอกาส ที่อาจเกิดขึ้นกับโครงการ รวมถึงมีการประเมินผลกระทบต่อพื้นที่ข้างเคียง และสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในแต่ละสาขาที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบ และให้คำแนะนำ แต่ในเบื้องต้นสำหรับ โครงการก่อสร้างขนาดเล็ก เช่น บ้านพักอาศัยส่วนตัว หรือ การก่อสร้างอาคารขนาดเล็ก เราจะไม่ได้เห็นขั้นตอนนี้ชัดเจนมากนัก เนื่องด้วยการก่อสร้างมีผลกระทบกับชุมชน และสิ่งแวดล้อมไม่มาก และกฎหมายที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้มีความซับซ้อน ทำให้ สถาปนิก หรือ วิศวกรผู้ออกแบบ หรือ ผู้ควบคุมงาน สามารถดำเนินการตรวจสอบให้เจ้าของโครงการได้ด้วยตนเอง
2. การจัดวางขอบเขตโครงการเบื้องต้น
หลังจากการศึกษาความเป็นไปได้ จะมีการทำการ ออกแบบเบื้องต้น ซึ่งรวมถึงการจัดทำ แผนผังโครงการ และการวางแผนการใช้พื้นที่ (layout) เพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการได้ชัดเจนขึ้น การออกแบบเบื้องต้นยังช่วยให้สามารถเลือกวัสดุ และกำหนดขอบเขตของโครงการ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำ TOR (Terms of Reference) สำหรับการคัดเลือกผู้ออกแบบและผู้รับเหมาต่อไป สำหรับบางโครงการอาจข้ามขั้นตอนการออกแบบเบื้องต้นไป และจัดทำเพียง การกำหนดขอบเขตโครงการ เพราะเจ้าของโครงการ หรือคณะทำงานอาจมองว่าอาจไปซ้ำซ้อนกับการทำงานของผู้ออกแบบ
3. การจัดหา และทำงานร่วมกับผู้ออกแบบ
ขั้นตอนนี้เป็นการวางแผนเพื่อ จัดหาทีมออกแบบ เช่น สถาปนิก และ วิศวกร โดยมีการตรวจสอบ และประเมิน ศักยภาพของผู้ออกแบบ เพื่อให้แน่ใจว่าทีมงานสามารถออกแบบได้ตามวัตถุประสงค์, ข้อกำหนด และงบประมาณที่กำหนดไว้ รวมถึงเมื่อได้ผู้ออกแบบที่มีคุณสมบัติตามต้องการแล้ว ทีม CM จะดำเนินการร่วมให้ความเห็น ตรวจสอบความถูกต้อง และเหมาะสมของแบบ ไปจนถึงการปรับแก้จนได้ แบบก่อสร้างที่สมบูรณ์
4. การประมาณราคากลางค่าก่อสร้าง และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับโครงการ
การประมาณราคาค่าใช้จ่ายเกี่ยวเนื่องกับโครงการ เป็นการคำนวณต้นทุนเบื้องต้น ซึ่งรวมถึง ค่าแรงงาน, ค่าวัสดุ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในรูปแบบ B.O.Q. (Bill of Quantities)
5. การจัดหา และประเมินคุณสมบัติ และศักยภาพของผู้รับเหมา
ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการเลือกทีมที่จะดำเนินการก่อสร้าง การตรวจสอบ และประเมิน คุณสมบัติ และศักยภาพของผู้รับเหมา ที่เหมาะสม จะช่วยให้มั่นใจว่าทีมงานสามารถทำงานได้ตามมาตรฐาน
6. การวางแผนการก่อสร้างที่รัดกุม
การจัดทำ แผนงานก่อสร้าง เป็นการวางแผนการดำเนินงานตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการส่งมอบโครงการ โดยจะระบุ ระยะเวลา และทรัพยากร ที่ต้องการอย่างชัดเจน
7. การขออนุญาตก่อสร้างอย่างถูกต้อง
ขั้นตอนนี้จะรวมถึงการเตรียม และตรวจสอบ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น การขออนุญาตก่อสร้าง
8. การตรวจสอบพื้นที่เพื่อความมั่นใจ
ก่อนเริ่มการก่อสร้างอีกครั้งร่วมกันทุกฝ่าย โดยจะต้องมีการ สำรวจ และตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้ง
9. ให้คำปรึกษาทุกฝ่ายก่อนเริ่มงาน
ขั้นตอนนี้ เป็นขั้นตอนสุดท้ายของงาน Pre-construction โดยทีม CM จะดำเนินการชี้แจงเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ
ดูคลิปประกอบบทความนี้ได้ที่เพจเฟซบุ๊ค วิศวะการันตี
หรือติดตามพวกเราได้ที่ : เพจ : วิศวะการันตี
อยากรู้จักเรา : เราเป็นใคร?
#วิศวะการันตี
#บริหารงานก่อสร้าง #ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง
#คอนซัลท์ #ควบคุมงานก่อสร้าง
#การเตรียมความพร้อมก่อนการก่อสร้าง
#ขั้นตอนPreConstruction
#การวางแผนการก่อสร้าง
#ประโยชน์ของPreConstruction
#การประมาณราคาค่าใช้จ่ายก่อนก่อสร้าง
#การจัดหาและเลือกผู้รับเหมา
#การตรวจสอบพื้นที่ก่อนการก่อสร้าง
