บ้าน คือ หนึ่งในปัจจัยสี่ที่มีความจำเป็นสำหรับมนุษย์ทุกคน การสร้างบ้านโดยปกติต้องใช้เงินมาก บางคนต้องเก็บเงินครึ่งค่อนชีวิตกว่าจะได้สร้างบ้านสักหลัง การสร้างบ้านจึงถือว่าเป็นรายจ่ายก้อนใหญ่ที่จะต้องเกิดในชีวิตของใครหลายๆ คน และด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน การเก็บเงินก้อนใหญ่ขนาดนั้นให้ครบในคราวเดียวจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก การยื่นขอสินเชื่อก่อสร้างเพื่อสร้างบ้านจึงเป็นประเด็นที่มีความน่าสนใจ การยื่นขอสินเชื่อเพื่อสร้างบ้านกับธนาคาร นอกจากเอกสารด้านการเงินของผู้กู้แล้ว “แบบแปลนบ้าน” และเอกสารประกอบเกี่ยวกับงานก่อสร้างก็เป็นอีกเอกสารสำคัญที่ธนาคารจะใช้พิจารณา เพราะเอกสารเหล่านี้เป็นตัวกำหนดมูลค่าก่อสร้าง และเป็นข้อยืนยันว่าบ้านจะถูกสร้างขึ้นจริงตามงบประมาณที่ขอสินเชื่อไปจากธนาคาร 

การยื่นขอสินเชื่อเพื่อสร้างบ้านกับธนาคาร นอกจากเอกสารด้านการเงินของผู้กู้แล้ว “แบบแปลนบ้าน” และเอกสารประกอบเกี่ยวกับงานก่อสร้างก็เป็นอีกเอกสารสำคัญที่ธนาคารจะใช้พิจารณา เพราะเอกสารเหล่านี้เป็นตัวกำหนดมูลค่าก่อสร้าง และเป็นข้อยืนยันว่าบ้านจะถูกสร้างขึ้นจริงตามงบประมาณที่ขอสินเชื่อไปจากธนาคาร 

ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมุ่งเน้นไปที่ส่วนของการเตรียมพร้อมในการจัดทำแบบแปลน และเอกสารประกอบให้ครบถ้วน และถูกต้อง ตามหลักวิศวกรรม และสถาปัตยกรรม เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของบ้านในการเตรียมตัวให้การดำเนินการขออนุมัติสินเชื่อจากธนาคารเป็นไปได้ง่ายขึ้น ช่วยให้โครงการก่อสร้างเป็นไปอย่างราบรื่นตามความตั้งใจ

ความสำคัญของแบบแปลนในการขอสินเชื่อบ้าน

ธนาคารจะพิจารณาแบบแปลนบ้าน และเอกสารประกอบที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง เพื่อตรวจสอบว่า
1. ขนาด และมูลค่าของตัวบ้าน เหมาะสมกับวงเงินที่ขอสินเชื่อหรือไม่
2. แบบก่อสร้างสอดคล้องกับงบประมาณ(BOQ.) เพื่อป้องกันการกู้เกินความจำเป็น
3. โครงสร้าง และรายละเอียดทางวิศวกรรมมีความเป็นไปได้จริงหรือไม่
4. แบบแปลนต้องสามารถนำไปใช้คำนวณราคาประเมินหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นตัวกำหนดวงเงินสินเชื่อที่ธนาคารจะอนุมัติ

องค์ประกอบของแบบแปลน และเอกสารประกอบแบบแปลนที่ต้องใช้ในการขอสินเชื่อบ้าน

1. แบบแปลนสถาปัตยกรรม
แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบอาคาร ขนาดพื้นที่ และฟังก์ชันใช้งาน ประกอบด้วยผังบริเวณ, แปลนพื้น, รูปด้าน, รูปตัด, รายละเอียดวัสดุ ฯลฯ

2. แบบแปลนโครงสร้าง
ใช้สำหรับกำหนดรายละเอียดโครงสร้างอาคาร เช่น ฐานราก เสา คาน พื้น และหลังคา เป็นเอกสารสำคัญที่ธนาคารใช้พิจารณาความมั่นคงของอาคาร

3. แบบแปลนระบบไฟฟ้า ประปา และสุขาภิบาล
แสดงการติดตั้งระบบไฟฟ้า ระบบประปา และระบบสุขาภิบาล เป็นแบบที่ใช้ประกอบการพิจารณางบประมาณการก่อสร้าง

4. รายการคำนวณโครงสร้าง
เป็นเอกสารที่แสดงการคำนวณกำลังรับน้ำหนักของโครงสร้าง (BOQ ต้องสัมพันธ์กับแบบนี้เพื่อให้ธนาคารมั่นใจว่าต้นทุนตรงกับแบบจริงๆ)

5. รายการประมาณราคาก่อสร้าง (BOQ – Bill of Quantities)
แสดงรายละเอียดต้นทุนของแต่ละส่วนงาน เช่น ค่าวัสดุ ค่าแรง ค่าดำเนินการก่อสร้าง ธนาคารใช้เอกสารนี้เปรียบเทียบกับวงเงินที่ขอกู้ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมโครงการก่อสร้าง

แนวทางจัดทำแบบแปลน และเอกสารประกอบงานก่อสร้างอื่นๆ เพื่อขอสินเชื่อให้ผ่านง่าย

1. ออกแบบให้เหมาะสมกับงบประมาณที่ตั้งไว้

1. คำนวณพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะสมกับวงเงินที่สามารถกู้ได้
2. หลีกเลี่ยงการออกแบบที่หรูหราเกินความจำเป็น หากงบประมาณมีจำกัด
3. ใช้วัสดุที่เหมาะสมกับมูลค่าการประเมินของธนาคาร

2. ทำแบบแปลนให้ครบถ้วน และถูกต้อง

1. แบบแปลนควรมีรายละเอียดที่ชัดเจน ครบทุกองค์ประกอบ
2. ต้องมีวิศวกร และสถาปนิก มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพลงนามกำกับ เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย
3. ควรทำ แบบ 3D Perspective แนบไปด้วย เพื่อช่วยให้ธนาคารเข้าใจโครงการมากขึ้น

3. มีรายการ BOQ. ที่มีความถูกต้องชัดเจน

1. รายละเอียดต้องตรงกับแบบก่อสร้าง ไม่มีต้นทุนแฝง หรือราคาประเมินสูงเกินจริง
2. ใช้ BOQ. ที่จัดทำโดยวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญ
3. ปรับ BOQ. ให้สอดคล้องกับราคาตลาดปัจจุบัน (หากราคาสูงเกินจริง ธนาคารอาจลดวงเงินที่อนุมัติลง)

4. เตรียมเอกสารประกอบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างให้ครบ

1. ใบอนุญาตก่อสร้าง (ถ้ามี หรือตามเงื่อนไขธนาคาร) เอกสารนี้ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ ทำให้ธนาคารมั่นใจได้ว่าโครงการก่อสร้างได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานแล้ว
2. โฉนดที่ดิน หากมีการกู้รวมค่าที่ดินต้องแนบโฉนดด้วย หรือในบางกรณีจะเป็นเอกสารประกอบให้ธนาคารพิจารณาว่า มีการก่อสร้างที่ถูกต้องตามกฎหมายบนที่ดินที่ได้รับการยินยอมจากเจ้าของที่ดิน
3. สัญญาจ้างผู้รับเหมา (ถ้ามี หรือตามเงื่อนไขธนาคาร) เพื่อแสดงให้เห็นว่าโครงการมีการจ้างผู้รับเหมาแล้ว และจะดำเนินการก่อสร้างจริง

ข้อดีของการจัดทำแบบแปลน และเอกสารประกอบที่ถูกต้องก่อนยื่นขอสินเชื่อ

1. ช่วยให้ธนาคารประเมินวงเงินกู้ได้แม่นยำ ลดโอกาสถูกลดวงเงิน เพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อสร้างบ้านได้ตามวงเงินที่คาดหวัง
2. สามารถบริหารจัดการงบประมาณค่าก่อสร้างได้ เพราะ BOQ. ตรงกับแบบจริง การแบ่งค่างวดงานจึงค่อนข้างตรงกับปริมาณงานที่เกิดขึ้นจริง และสามารถจัดการให้สอดคล้องกับการเบิกงวดกับธนาคารได้
3. การเตรียมการที่ดีโดยผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ได้แบบแปลน และเอกสารประกอบอื่นๆ ถูกต้องตามข้อกำหนด และเงื่อนไข ช่วยให้โครงการก่อสร้างดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่ต้องกลับมาแก้ไขซ้ำ
4. เพิ่มโอกาสให้ธนาคารอนุมัติสินเชื่อง่ายขึ้น เพราะแบบแปลน และเอกสารประกอบ มีความชัดเจน และสมเหตุสมผล

สรุป

การยื่นขอสินเชื่อก่อสร้างเพื่อสร้างบ้านมีขั้นตอนที่ซับซ้อน และมีความต่างจากการขอสินเชื่อประเภทอื่น นอกจากการเตรียมเอกสารส่วนตัว และการสร้างเครดิตทางการเงินที่ดีของเจ้าของบ้านแล้ว การจัดทำแบบแปลน และการจัดเตรียมเอกสารประกอบการก่อสร้างสำหรับการขอสินเชื่อสร้างบ้าน ก็เป็นอีกกระบวนการที่ต้องให้ความสำคัญ แบบแปลน และเอกสารประกอบการก่อสร้างที่ถูกต้องครบถ้วน ทำให้ธนาคารสามารถพิจารณาได้อย่างชัดเจน ส่งผลโดยตรงต่อวงเงินกู้ และเพิ่มโอกาสที่จะได้รับอนุมัติวงเงินจากธนาคาร

หากต้องการให้การยื่นขอสินเชื่อก่อสร้างราบรื่น ควรปรึกษาวิศวกร และสถาปนิกที่มีประสบการณ์ ในการจัดทำแบบก่อสร้างที่เหมาะสม จัดทำ BOQ. ที่ตรงกับราคาตลาด และช่วยในการจัดเตรียมเอกสารประกอบการก่อสร้างที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การอนุมัติสินเชื่อเป็นไปอย่างรวดเร็ว และไม่มีปัญหา 

ดูคลิป BOQ คือ? ได้ที่เพจเฟซบุ๊ค วิศวะการันตี

หรือติดตามพวกเราได้ที่ : เพจ : วิศวะการันตี

อยากรู้จักเรา : เราเป็นใคร?

#วิศวะการันตี

#ขอสินเชื่อบ้าน #แบบแปลนก่อสร้าง #แบบบ้านขอสินเชื่อ #BOQก่อสร้าง #ยื่นกู้สร้างบ้าน #ออกแบบบ้านขอสินเชื่อ #แบบบ้านอนุมัติสินเชื่อ #กู้บ้านธนาคาร #เอกสารยื่นกู้บ้าน #สินเชื่อสร้างบ้าน